• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

🦖งานทดสอบความหนาแน่นของชั้นดิน🦖 การทดสอบความหนาแน่นของดินในสนาม🌏

Started by kaidee20, Jul 17, 2024, 10:33 AM

Previous topic - Next topic

kaidee20

การทดสอบความหนาแน่นของชั้นดิน (Field density test) เพื่อใช้เปรียบเทียบกับความหนาแน่นสูงสุดของการบดอัดดินที่ได้จากห้องปฏิบัติการ จุดประสงค์ของการทดสอบ เพื่อประเมินความหนาแน่นของดินในสนาม ว่าภายหลังการบดอัดพื้นที่ด้วยเครื่องมือต่างๆ นั้นพื้นที่นั้นมีความหนาแน่นสามารถรับน้ำหนักได้ตามข้อกำหนดที่คำนวณไว้หรือไม่

โดยทั่วไปการทดสอบหาความหนาแน่นแห้งของดินในสนาม คือ การหาค่าความหนาแน่นเปียกและปริมาณความชื้นในดิน ในการทดสอบหาค่าความหนาแน่นของดินในสนาม (Field Density) จะมีอยู่ด้วยกัน 3 วิธี คือ

👉👉👉1. วิธีกรวยทรายวิธีนี้ใช้ทรายในการหาปริมาตรของหลุมโดยทรายที่ใช้คือ ทราย Ottawa Sand ซึ่งขนาดของเม็ดทรายจะมีลักษณะกลมและมีขนาดเท่าเท่ากัน (Uniform) หรือจะใช้ทรายที่ผ่านการร่อนตามมาตรฐาน เพื่อที่จะให้ผลของความหนาแน่นที่เท่ากันโดยตลอดและไม่เกิดการแยกตัวของเม็ดหยาบและเม็ดเล็ก (Segregation) ขณะทำการทดสอบ
🛒🛒🛒2. Rubber Balloon Methodวิธีนี้ใช้น้ำช่วยในการหาปริมาตรของหลุม ซึ่งสะดวกและรวดเร็วกว่าวิธีแรก ในการทดสอบต้องใช้ลมในการบีบอัดน้ำลงไปในหลุมทดสอบ ลมที่อัดลงไปนี้มีส่วนช่วยให้น้ำในลูกโป่งอัดแนบสนิทกับก้นหลุม ทำให้ได้ค่าปริมาตรของหลุมที่ถูกต้องและแม่นยำยิ่งขึ้น
🌏🌏🌏3. Nuclear Methodเป็นการหาค่าความหนาแน่นของดินและปริมาณความชื้นของดินบดอัดแห้ง หาความหนาแน่นเปียกของดิน โดยใช้รังสีแกมม่าส่งผ่านดินที่ต้องการ ก่อนที่จะเข้าที่รับรังสี ถ้ารังสีสะท้อนกลับไปเครื่องรับมาก แสดงว่าดินมีความหนาแน่นสูง ส่วนการหาปริมาณความชื้นโดยใช้นิวตรอน (Newtron)ส่งผ่านเข้าไปในดินและสะท้อนไปยังเครื่องรับช้าแสดงว่าปริมาณน้ำในมวลดินมีมาก วิธีนี้สะดวกและรวดเร็วแต่ค่าใช้จ่ายสูง
📢⚡⚡🛒
Quoteบริการ เจาะดิน | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท ทดสอบดิน บริการ เจาะสํารวจดิน วิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรมปฐพีของดิน ทดสอบเสาเข็ม (Seismic Test)

👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/
👉 เว็บไซต์: เจาะสำรวจดิน.com
👉🥇✅📢
การก่อสร้างถนน สนามบิน เขื่อน พื้นที่โรงงาน ฯลฯ จะต้องบดอัดด้วยเครื่องมือเฉพาะตามชนิดของวัสดุ หลังจากบดอัดได้ที่แล้วก็จะต้องมีการตรวจสอบผลของการบดอัดนั้นว่ามีความแน่นสามารถรับน้ำหนักได้ตามข้อกำหนดที่ได้ออกแบบคำนวณไว้หรือไม่ เช่น งานชั้นรองพื้นทาง (subbase) ชั้นพื้นทาง (base) จะต้องบดอัดให้ได้ 100% งานชั้นดินเดิม และดินถมจะต้องบดอัดให้ได้ 95% การบดอัดต้องควบคุมความชื้นและพลังงาน ถ้าจำนวนเที่ยวที่บดอัดมากเกินไปก็จะสิ้นเปลืองทั้งค่าแรงงานและค่าน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ถ้าบดอัดน้อยไปก็จะไม่ได้ความแน่นที่ต้องการจะต้องกลับมาทำงานซ้ำอีก

การหาความแน่นของดิน คือ การหาน้ำหนักของดินในบริเวณที่บดอัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว หารด้วยปริมาตรของหลุมที่ขุดดินออกมา และการที่จะหาปริมาตรของหลุมที่กล่าวนี้ จำเป็นจะต้องใช้วัสดุที่มีความหนาแน่นและความถ่วงจำเพาะที่แน่นอนในการแทนที่ ซึ่งการทดสอบดังกล่าวอาจกระทำได้โดยวิธีใช้ทรายมาตรฐาน (Sand Cone Method) ช่วยในการทดสอบหรือใช้น้ำ (Balloon Density Method) ทั้งสองวิธีนี้ต่างก็อาศัยหลักอันเดียวกัน

⚡⚡⚡ขั้นตอนการทดสอบ การทดสอบความหนาแน่นในสนาม🛒🛒🛒

⚡✨🥇1. ปรับพื้นผิวทดสอบให้เรียบขนาด 450×450 เซนติเมตร จากนั้นก็วางแผ่นฐานรองและตอกตะปูยึดให้แน่น ปัดฝุ่นที่ผิวดินและแผ่นฐานออก
🥇🛒📌2. ใช้สกัด เจาะดินบริเวณตรงกลางแผ่นฐานรองให้มีความลึกประมาณ 10-15 เซนติเมตร และก้นหลุมที่เจาะจะต้องมีขนาดเท่ากับปากหลุมเจาะดินที่ขุดจากหลุมจะต้องเก็บให้หมดโดยใช้ช้อนเล็กตัก ใช้แปรงปัดเศษดินในกรณีเหลือดินน้อย
👉📢🌏3. นำดินที่ได้จากการขุดมาชั่งและจดบันทึกค่าไว้หลังจากนั้น นำดินส่วนหนึ่งที่ขุดได้ไปชั่งเสร็จแล้วนำตัวอย่างดินส่วนหนึ่งไปหาค่าปริมาณความชื้น
⚡✨🥇4. คว่ำกรวยทรายที่เตรียมไว้ลงบนปากหลุม เปิดวาล์ว ระวังอย่าให้กระทบกระเทือน
⚡✨🥇5. สังเกตว่าเมื่อทรายที่ปล่อยลงหลุมหยุดไหลแล้ว ก็ทำการปิดวาล์วแล้วนำทรายที่เหลืออยู่ในกรวยไปชั่งน้ำหนักพร้อมกับกรวยทรายและจดบันทึกค่าไว้
🦖🎯✅6. นำทรายในหลุมใส่กระป๋องเก็บทราย โดยอย่าให้ดินติดขึ้นมาด้วย เพราะทรายจะต้องใช้ทดสอบในหลุมอื่นๆ